“ยิ่งแม่บ่น..ลูกก็ยิ่งดื้อ” 8 วิธีใช้รับมือ ลูกที่ดื้อมากๆ ทำแล้วลูกจะเชื่อฟังมากขึ้น

แม่ยิ่งบ่น ลูกยิ่งดื้อ ลองรับมือแบบนี้ดู ลูกจะเชื่อฟังขึ้นมาก
เมื่อลูกทำผิด สิ่งที่เขากลัวหลักๆเลยนั้นก็คือ การที่ถูกพ่อแม่ดุ หรือถูกทำโ ท ษ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะทำให้ลูกเกิดการต่อต้ า นมากขึ้น ไม่ค่อยเ ชื่ อฟัง ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ ดังนั้นล อ งรับมือกับลูกด้วยการรับฟัง มีเหตุมีผลมากกว่าการใช้อ า ร ม ณ์ โดยใช้คำถามเหล่านี้จะทำให้ลูกเ ชื่ อฟังคุณมากขึ้น

1 พ่อแม่ควรต้องทำยังไงกับความผิดที่หนูทำ

บางอย่างที่ลูกทำผิดเราสามารถคิดและจัดการกับปัญหา หาทางออกไปพร้อมกับลูกได้ อีกทั้งยังเป็นการให้ลูกได้ทบทวนความผิดที่ตนเองทำ ให้ลูกได้รู้จักคิดและแก้ปัญหา เป็นบทเรียนที่ลูกจะต้องเรียนรู้และไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก ส่วนพ่อแม่ก็คอยชี้แนะแนวทางให้ จะได้หาทางออกไปด้วยกัน

2 ถ้าเกิดรอบหน้าหนูทำผิดอีก จะให้พ่อกับแม่ทำอย่างไร

เมื่อลูกทำผิดไปแล้ว ไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้ ด้วยเหตุนั้นลองให้เขาทบทวนความผิดของตัวเอง ให้เขาได้คิดและตัดสินใจ แล้วมาดูกันว่าเขาจะสามารถคิด ตัดสินใจได้มากน้อยเพียงใด การทำแบบนี้ก็จะช่วยให้เขามีความคิดที่โตขึ้นด้วย ได้รู้จักตัดสินใจเอง จัดการกับปัญหาเอง แล้วก็รับผิดชอบกับความผิดที่ตนเองทำ

3 ถ้าพ่อกับแม่ทำแบบนี้ หนูจะเป็นอย่างไร

หลังจากที่เรารับฟังวิธีการจัดการกับปัญหาที่ลูกพูดมา เราต้องอธิบายถึงผลที่จะตามมาด้วย เพื่อให้ลูกได้รู้ว่าหากเขาทำอย่างงี้เขาจะได้รับผลอย่ า งไร พร้อมที่จะรับผลที่ตามมาได้หรือไม่ การที่เราตั้งคำถาม และอธิบายให้ลูกฟังจะทำให้ลูกเชื่อใจ เมื่อมีปัญหาอะไร เขาจะก ล้ ามาปรึกษา

4 หนูอย า กให้พ่อแม่ช่วยอย่างไรดี

เมื่อลูกมีปัญหาหรือมาขอให้เราช่วยอะไรสักอย่าง หากเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องรับฟังและคอยสนับสนุน ช่วยเหลือลูกเต็มที่ เพราะพลังสนับสนุนของครอบครัวนี่แหละจะทำให้ลูกมีความมั่นใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สิ่งต่างๆได้สำเร็จ

5 เกิดอะไรขึ้นกับลูก เล่าให้พ่อกับแม่ฟังได้นะ

พ่อแม่ควรจะเปิดโอกาสให้ลูกได้พูดบ้ า ง ได้เล่าปัญหาหรือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ส่วนพ่อแม่จะต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่ควรด่ ว นตัดสิน หรือต่อว่าลูก แม้ว่าลูกจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ควรจะรับฟังเรื่องราวก่อน ทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในมุมมองของลูก เมื่อเราได้รู้ปัญหาจะได้แก้ไขหาทางออกไปด้วยกันได้ แบบนี้จะทำให้ครอบครัวเราเข้าใจกันมากขึ้นด้วย

6 หนูตัดสินใจได้มั้ย ว่าควรจะทำยังไงดี

การที่เราปล่อยให้ลูกได้คิด ได้ตัดสินใจเอง หากว่าลูกจะเลือกวิธีแก้ปัญหาแบบไหนออกมา เราก็ต้องรับฟังและเ ค า ร พการตัดสินใจของลูก ถึงมันจะไม่ใช่ความคิดที่เราคาดห วั งเอาไว้ แต่เราทำได้แค่แ น ะนำ ให้คำปรึกษาในด้านที่เหมาะสม เพราะการที่คุณคัดค้ า นหรือพูดกลับไปกลับมาอาจทำให้ลูกไม่เ ชื่ อใจ และไม่ก ล้ ามาปรึกษาคุณอีก

7 ตอนนี้หนูกำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกอย่างไรบ้ า ง

ปล่อยให้เขาได้แสดงความคิดเห็น พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาบ้ าง อย่าเพิ่งเข้าไปขัดหรือไปสั่งสอนอะไรเพราะบางทีอ า ร ม ณ์ลูกในตอนนี้ ต่อให้ใครพูดอะไรมาก็ไม่ฟัง ไม่สนใจทั้งนั้น ดังนั้นรอให้ทุกอย่างเย็นลงเ สี ยก่อน แล้วค่อยมาคุยกันดีๆด้วยเหตุผล อธิบายในมุมของเราให้ลูกฟัง และเราควรจะรับฟังลูกในมุมของลูกด้วย

ลูกอาจจะดื้อไปบ้ าง ไม่ได้ดั่งใจเราในหลายๆอย่าง แต่อย่าลืมว่าลูกก็เป็นแค่เ ด็ กคนหนึ่งที่บางทีเขาก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเราต้องดุ ต้องตำหนิหรือต้องลงโ ท ษเขาด้วย เมื่อลูกไม่เข้าใจก็อาจเกิดการต่อต้ า นพ่อแม่ขึ้น ฉะนั้นการรับฟังกันในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ รับฟังลูกให้มาก ใช้หลักเหตุผลในการพูดคุยกันดีๆ อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าเพราะอะไร เมื่อทุกคนรับฟังกัน เมื่อมีปัญหาก็แก้ปัญหาไปพร้อมกัน อย่างนี้จะทำให้ครอบครัวเข้าใจกันเ พิ่ มมากขึ้น

ขอขอบคุณที่มาจาก e-yhangwa.com